paper teller : picture book begins here

workshop paper teller: picture book begins here.

"จบลงแล้วด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตา
บางครั้งการเล่าเรื่องจากข้างในตัวเอง
ก็เป็นการทบทวนความรู้สึกลึกๆ
ขุดคุ้ยบางความทรงจำ
และตรวจสอบความคิดภายในอย่างเข้มข้นและลึกซึ้ง
คอร์สนี้จึงคุยกันว่าเหมือนเป็น art therapy
ศิลปะเยียวยาจิตใจตัวเอง
และปลอบประโลมใจผู้อื่น
หลายคนก็คือคุณแม่ที่อยากเข้าใจลูก เข้าใจความเป็นเด็ก
บางคนก็เพื่อนำไปต่อยอดใช้กับงานของตัวเอง
ที่ปรากฏว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงการหนังสือมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
บางคนบอกว่าได้ปลดล็อกอะไรบางอย่างที่ค้างคาในใจมานาน
นอกจากคำแนะนำและความเห็นที่เปิดกว้างของครูทั้งสามแล้ว
บรรยากาศที่มีหนังสือรายล้อมอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกวางใจและเปิดใจ
ขอบคุณ คุณก้อย ผู้จัดงาน / คุณแต้ว คุณอ้อย คุณบอมบ์ วิทยากร และนักเรียนทุกท่านค่ะ

แต่เหมือนมี 1 ท่านที่นอกจากไม่ตั้งใจเรียนแล้วยังป่วนคนอื่นไปทั่วห้องอีกต่างหาก"

----------------
พี่เอ๋ อริยา ไพฑูรย์



-------------------------------------------------------------------------

จบไปแล้วกับคอร์ส 

paper teller : picture book begins here.

17-19.10.2025

ภาคต่อจากอุทัย ใครจะคิดว่าหนังภาคต่อจะทำเงินไม่แพ้ภาคแรก
อบอุ่น อิ่ม สนุก สวยงาม เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และนํ้าตาอย่างที่พี่เอ๋เขียนไว้

ครั้งนี้พวกเราได้มาอยู่ในสถานที่สุดพิเศษ
เหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง รายล้อมด้วยหนังสือ
ทั้งสวนมหัศจรรย์ ที่พัก ร้านเล็ก ๆ และเจ้าของบ้านสุดน่ารัก
พี่เอ๋ พี่จี๋ เหมือนพาเราหลุดเข้าไปใน

ขอบคุณพี่จี๋และพี่เอ๋ สำหรับสถานที่สุดพิเศษ
ร้านหนังสือเล็กๆ สารภี เชียงใหม่
ยังไม่ทันได้เสพร้านให้เต็มที่เลย อยากมาอีก
พี่เอ๋ก็ชวน “มานอนวาดรูปทำงานที่นี่สิ มาเป็น Artist Residency
ตื่นเต้นจนรีบตอบว่า “ครับผม!”
พี่เอ๋ยิ้มแล้วบอกว่า “ครับผม แปลว่ารับปากแล้วนะ!”

(ต้องรีบหาของไปเลี้ยงคนเลี้ยงแมวก่อนเลย)  
.
ขอบคุณนักเรียนทุกคน แต่ละคนมาด้วยหัวใจที่ต่างกัน (ลอกพี่เอ๋มา)
นักเรียนบางคนตั้งใจมาหาสูตรการทำหนังสือภาพในแบบของตัวเอง
บางคนมาค้นหาตัวเอง ผ่านเรื่องราวที่อยากเล่า
บางคนอยากทำเพื่อไว้พูดกับคนใกล้ตัว
บางคนอยากเรียนรู้เพื่อเอาไปต่อยอด
บางคนอยากสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจสิ่งที่อยู่ในใจ
บางคนตั้งคำถามว่า "จะทำได้ยังไงในเวลาเท่านี้ "
สุดท้ายกลับพูดเองว่า "ไม่คิดเลยว่าจะทำได้จริงๆ"
บางคนบอกว่า มาเพราะเพิ่งมีหลาน อยากทำหนังสือให้หลาน

และอื่นๆ อีกมากมาย

นักเรียน 19 คน ไม่น้อยเลย อ้อ บวกอีก 1 คือ เดฟั่น! 
ไม่ส่งงาน แต่วิ่งและนอนเก่งที่สุดในคลาส 

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น
คอร์สนี้ไม่ได้สอนแค่ "หนังสือเด็ก"
แต่พาไปสร้าง "หนังสือภาพสำหรับทุกวัย" 
ด้วยหัวใจของตัวเอง

พวกเราให้โจทย์ คิดเรื่องที่ใกล้หัวใจเราที่สุด
ผลงานทุกชิ้น จึงเขย่าความรู้สึกของทุกคน 
คอร์สนี้จึงมีทั้งเสียงหัวเราะ...และนํ้าตา

ขอบคุณ พี่แต้ว ครูของพวกเราตลอดกาล หรืออาจจะนานกว่านั้นนิดหน่อย
ถ้าไม่มีพี่แต้ว เราคงไม่ได้มาเรียนรู้อะไรแบบนี้
แทบไม่ต้องพูดอะไรกันมาก แค่ปล่อยให้เรื่องราวไหลไป 
เหมือนที่เราใช้วิธีนี้ในหนังสือภาพ
คลาสนี้จึงออกมาเกินความคาดหมายสำหรับพวกเราจริงๆ

และที่ขาดไม่ได้ 
บุคคลสำคัญของพวกเรา
พี่ก้อย สกุณี  
@koisakunee

ผู้จัดคอร์สนี้ให้เกิดขึ้นจริง
ทั้งสถานที่เรียนที่สะดวกสบาย สวยงาม
อาหาร พร้อมมาก อิ่มอร่อยตลอดเวลา
ไม่ได้พักปากท้องเลย😆

ขอบคุณพี่ก้อยที่เชื่อมั่นในพวกเรา 
ตอนแรกยังแอบคิดว่า จะมีใครมาเรียนไหม
ใครจะยอมเสียเงินมาเรียนทำหนังสือภาพ! 
เอาความมั่นใจมาจากไหน พวกเราไม่มีทฤษฎี ไม่มีสูตรสำเร็จอะไรเลย 
แต่พี่ก้อยเชื่อมั่นว่า ทำได้
และเมื่อรับปากแล้ว ก็ต้องทำให้ดีที่สุด

สุดท้ายแล้ว จะดีหรือไม่ คงต้องให้คนอื่นบอก
แต่สำหรับพวกเรา คอร์สนี้คือการเรียนรู้ที่แท้จริง

สมกับชื่อ 
paper teller : picture book begins here.
ภาพบนกระดาษไม่มีความสำคัญเท่ากับเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังภาพนั้น

คอร์สนี้ ไม่ได้มีแค่ "ผู้เรียน" และ "ผู้สอน" 
แต่เราทุกคนได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ได้ค้นพบการเติบโตภายใน 
ด้วยหัวใจของเราเอง
............................
เครดิตภาพ : ขอบคุณภาพจากทุกๆ คนในคลาสมากครับ
















































































































































จบด้วยตื่นเช้า หน้าง่วง